The Rich and Bold Flavor of Dark Roast Coffee เจาะลึกกาแฟคั่วเข้มที่ครองใจคนไทยมาอย่างช้านาน
สารบัญเนื้อหา
เคยสังเกตกันมั้ยครับ ว่าทุกครั้งที่เราไปร้านกาแฟหลายๆ ร้านมักจะมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายรูปแบบและเมล็ดกาแฟคั่วเข้มก็มักจะเป็นกาแฟตัวเลือกแรกๆ ที่ร้านกาแฟจะต้องมีติดร้านไว้ ซึ่งคนไทยหลายคนก็ชื่นชอบรสชาติของกาแฟคั่วเข้มเป็นอย่างมากนะครับ แต่ถ้าจะถามถึงเหตุผลว่าทำไม บทความนี้เราจะมาเจาะลึกกันครับ
อะไรทำให้กาแฟคั่วเข้มมีเอกลักษณ์?
กาแฟคั่วเข้มนั้นได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟด้วยรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นที่ชัดเจนและมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากการคั่วกาแฟระดับอื่น แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากกาแฟประเภทอื่นๆ คือถ้าหากเราคั่วกาแฟแบบเข้มนั้น ความเปรี้ยวที่อยู่ในเมล็ดจะหายไปเกือบทั้งหมด และจะมีกลิ่นควันและความไหม้ (smoky) เพิ่มเข้ามาแทน ซึ่งจะทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมกลิ่นกาแฟอย่างชัดชัดเจน ดำดิ่งสู่โลกแห่งกาแฟคั่วเข้มและสำรวจคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟคั่วเข้ม แล้วถ้าหากชงเป็นเมนูกาแฟนมอย่างลาเต้หรือคาปูชิโน่ก็ลงตัวกันสุดๆ กับกาแฟคั่วเข้มเลยครับ อ่านบทความ การคั่วกาแฟมีผลต่อรสชาติอย่างไรได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ https://coffeepressthailand.com/2021/08/19/coffeeroastinglevel/
ขั้นตอนกระบวนการคั่ว
กาแฟคั่วเข้มผ่านกระบวนการคั่วที่นานกว่าเมื่อเทียบกับระดับการคั่วอื่นๆ ซึ่งความร้อนที่ผ่านเมล็ดกาแฟมากขึ้นนั้นส่งผลให้เมล็ดมีการ Develop ที่นานขึ้นส่งผลให้ ลักษณะของเมล็ดเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากสีเขียวกลายมาเป็นสีน้ำตาลเข้ม และอาจจะมีน้ำมันออกมาเคลือบเมล็ด ที่จะเป็นลักษณะของเมล็ดกาแฟคั่วเข้มนั่นเองครับ
ในการคั่วจะเกิดการกระบวนการคาราเมลไลซ์ (Caramelize) หรือการแตกตัวของน้ำตาลนั่นเองครับ สิ่งนี้จะพัฒนาเมล็ดจากที่มีรสเปรี้ยวให้ค่อยๆ มีความหวานมากขึ้นในที่สุด นี่จึงเป็นที่มาที่ว่าเมล็ดกาแฟคั่วเข้มมีรสชาติที่หวานและซับซ้อนกว่าเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน และอีกผลลัพธ์ที่ได้จากการะบวนการนี้คือเมล็ดกาแฟระดับคั่วเข้มจะตัดรสชาติเปรี้ยวออกไปจนเกือบหมด ซึ่งส่งผลให้เมล็ดมีลักษณะที่สีเข้มขึ้นและเป็นมันเงาและมีกลิ่นของกาแฟที่ชัดเจนและมีรสชาติเข้มข้นที่มากกว่ากาแฟคั่วอ่อนนั่นเองครับ
โปรไฟล์รสชาติ
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของกาแฟคั่วเข้มคือรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นควัน (smoky) ที่ชัดเจน โดยมักจะมีกลิ่นของช็อกโกแลต คาราเมล กระบวนการคั่วเข้มช่วยให้กาแฟมีระดับความเป็นกรดต่ำลง ทำให้รสชาติมีความหวานมากขึ้น และความเปรี้ยวลดลงไปครับ แต่ถ้าเป็นการคั่วในระดับที่เข้มเกินไปก็จะเพิ่มความขมเข้ามาได้มากขึ้นครับ มากไปกว่านั้นในตอนสกัดกาแฟคั่วเข้มเราจะเจอครีม่าที่ชัดเจนมากกว่ากาแฟคั่วอ่อน ซึ่งเกิดจากการคั่วด้วยความร้อนเป็นเวลานานทำให้มีน้ำมันกาแฟออกมา ซึ่งน้ำมันกาแฟตรงนี้แหละครับ ที่ทำให้เกิดครีม่านั่นเองครับ หลายคนที่ไม่ชอบกาแฟรสชาติเปรี้ยว แต่ชอบที่จะเห็นครีม่าสวยๆ บนกาแฟ เมล็ดกาแฟคั่วเข้มถือว่าเป็นคำตอบที่ดีเลยครับ
ปริมาณคาเฟอีน
หลายคนคงจะคิดว่ากาแฟคั่วเข้มจะมีคาเฟอีนที่สูงกว่ากาแฟคั่วอ่อนซึ่งที่จริงนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด กาแฟคั่วเข้มไม่จำเป็นต้องมีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟคั่วอ่อน แม้ว่ากระบวนการคั่วอาจลดปริมาณคาเฟอีนลงเล็กน้อย แต่ความแตกต่างนั้นไม่มีนัยสำคัญ ดังนั้น กาแฟคั่วเข้มจึงไม่ได้มีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟคั่วอ่อนแต่อย่างใดครับ
ประโยชน์ต่อสุขภาพของกาแฟคั่วเข้ม
สารต้านอนุมูลอิสระจากกาแฟ
กาแฟคั่วเข้มมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์และสามาถพบในผลไม้บางชนิดรวมถึงกาแฟด้วยเช่นกัน กาแฟนั้นช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆ รวมถึงการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด และช่วยในการเผาผลาญพลังงานด้วยครับ ทำให้กาแฟมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักครับ (แต่แอดมินขอเน้นว่าต้องเป็นกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลนะครับ ^^)
กาแฟช่วยเรื่องปรับปรุงการทำงานของสมอง
คาเฟอีนในกาแฟคั่วเข้มช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิได้ชั่วคราว กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้คุณตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้น นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังแนะนำว่าการบริโภคกาแฟอาจยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน ฯลฯ
อารมณ์สมดุลด้วยกาแฟ
เป็นที่ทราบกันดีว่ากาแฟคั่วเข้มช่วยเพิ่มอารมณ์และต่อสู้กับอาการซึมเศร้า กลิ่นและรสชาติของกาแฟสามารถกระตุ้นการผลิตสารสื่อประสาท เช่น โดปามีนและเซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่มีความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี
แนะนำวิธีการชงที่เหมาะสมกับกาแฟคั่วเข้ม
การชงโดยเครื่อง French Press
วิธีการชงแบบ French Press เหมาะสำหรับกาแฟคั่วเข้มไม่น้อย เนื่องจากการชงวิธีนี้ใช้กาแฟแช่กาแฟทำให้ได้กาแฟที่มี Body เข้มข้นและชัดเจน เพียงเติมกาแฟบดหยาบลงในเฟรนช์เพรส เทน้ำร้อน แช่ไว้สัก 4 นาที แล้วกดที่ฟิวเตอร์ลงเพื่อเพิ่มแรงดันเล็กน้อยและแยกผงกาแฟออกจากกาแฟ เท่านี้ก็อร่อยกับกาแฟคั่วเข้มได้อย่างง่ายๆ แล้วครับ
เอสเพรสโซ่ (Espresso)
กาแฟคั่วเข้มมักเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการทำเอสเพรสโซ่เนื่องจากรสชาติที่เข้มข้นและความเป็นกรดต่ำ การใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่แรงดันสูง รวมไปถึงเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติก็สามารถสกัดช็อตเอสเพรสโซ่ที่เข้มข้นได้เช่นกัน รวมถึงมีครีม่าสีทองสวยงามฟูๆ ที่สุดแสนจะดีต่อใจ (เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ coffee press https://coffeepressthailand.com/2022/12/01/modeldifference/ )
โคลด์บริว (Cold brew)
สำหรับผู้ที่ชอบรสชาติที่นุ่มนวลกว่าและมีกรดน้อยกว่า การชงแบบเย็นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม กระบวนการชงแบบเย็นที่ช้าและนุ่มนวลจะดึงรสชาติออกจากเมล็ดกาแฟที่ละเล็กละน้อย ทำให้กาแฟมีรสชาติที่นุ่มและบาลานซ์ นำกาแฟคั่วเข้มบดหยาบแล้วเติมน้ำอุณหภูมิห้องในสัดส่วนสัก 1:15 แล้วทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นกรองและดื่ม สดชื่นเหมาะกับหน้าร้อนมากครับ
กาแฟคั่วเข้มดื่มพร้อมอะไรดี
ช็อกโกแลต
กาแฟคั่วเข้มที่เข้มข้นและกลิ่นที่ชัดเจนของช็อกโกแลตทำให้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับของหวานที่ทำจากช็อกโกแลต การผสมผสานระหว่างกาแฟคั่วเข้มและช็อกโกแลตสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เนื่องจากรสชาติของทั้งสองช่วยเสริม ช่วยเพิ่มรสชาติของทั้งสองอย่างได้แบบลงตัว
เนื้อย่าง
กลิ่นควันของกาแฟคั่วเข้มช่วยเสริมรสชาติที่ไหม้เกรียมของเนื้อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อชุ่มฉ่ำหรือซี่โครงบาร์บีคิว กาแฟคั่วเข้มสักแก้วสามารถให้การจับคู่ได้อย่างลงตัว ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยครับว่ากาแฟคั่วเข้มจะเข้ากันได้ดีกับกาแฟคั่วเข้มครับ
ถั่ว
ลักษณะเด่นของกาแฟคั่วเข้มเข้ากันได้ดีเป็นพิเศษกับถั่วชนิดต่างๆ เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และเฮเซลนัท เพลิดเพลินกับถั่วคั่วหนึ่งกำมือควบคู่ไปกับกาแฟคั่วเข้มเพื่อเพิ่มมิติของรสชาติและประสบการณ์รสชาติได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
วิธีการเลือกกาแฟคั่วเข้ม
เลือกใช้เมล็ดคุณภาพดี
เมล็ดกาแฟที่ดีควรจะเป็นเมล็ดกาแฟที่ดื่มไปแล้วจะรู้สึกถึงความ Balance ของรสชาติ แต่ถ้าดูจากลักษณะภายนอกเมล็ดกาแฟควรจะมีสีของแต่ละเมล็ดเท่ากัน ซึ่งเป็นการแสดงถึงการคั่วที่สม่ำเสมอ เมล็ดไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่แต่ไม่ควรมีเมล็ดที่แตกหรือมีรูในเมล็ดกาแฟครับ (สามารถอ่านบทความกาแฟเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ coffee press https://coffeepressthailand.com/coffee-bean/ )
แหล่งกำเนิดและสายพันธุ์
ภูมิภาคที่ปลูกกาแฟต่างกันจะผลิตเมล็ดกาแฟที่มีรสชาติและคุณลักษณะเฉพาะตัว สำรวจต้นกำเนิดของเมล็ดกาแฟและทดลองกับพันธุ์ต่างๆ เพื่อค้นหากาแฟคั่วเข้มที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟจากแหล่งเดียวหรือแบบผสมผสาน แต่ละชนิดก็มีรสชาติที่แตกต่างกันไป ถ้าหากภาคเหนือมักจะเจอสายพันธ์อราปิก้าที่ให้รสชาตินุ่นนวล หรือจะเป็นโรบัสต้าจากภาคใต้ก็เข้มข้น ให้คุณตื่นตัวได้ทั้งวันเลยครับ (บทความเมล็ดกาแฟดอยช้าง https://coffeepressthailand.com/2020/12/05/กาแฟดอยช้าง/ )
วันที่คั่วและบรรจุภัณฑ์
ความสดใหม่เป็นกุญแจสำคัญในการชงกาแฟ ตรวจสอบวันที่คั่วบนบรรจุภัณฑ์และเล็งสำหรับเมล็ดที่เพิ่งคั่วเสร็จ เมล็ดกาแฟเริ่มสูญเสียรสชาติเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นควรบริโภคให้หมดภายในสองสามสัปดาห์นับจากวันที่คั่ว เลือกใช้บรรจุภัณฑ์สุญญากาศที่ช่วยรักษาความสดของถั่ว
สรุป
กาแฟคั่วเข้มให้ประสบการณ์ที่ดีและรสชาติเข้มข้นสำหรับคนรักกาแฟ รสชาติที่เข้มข้น ความเป็นกรดต่ำ และคุณลักษณะเฉพาะทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ที่มองหากาแฟที่เข้มข้น คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับกาแฟคั่วเข้มในวิธีการชงแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการชงแบบฝรั่งเศส เอสเปรสโซ หรือการชงแบบสกัดเย็น รวมไปถึงการเลือกทานกับอาหารจานโปรดที่คุณชอบ เพื่อประสบการณ์ทานอาหารที่น่ารื่นรมย์ อย่าลืมเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพที่ดีและให้ความสำคัญกับความสดใหม่เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟคั่วเข้มของคุณ